ลักษณะการเล่น สนุกเกอร์ พูล และ บิลเลียด ต่างกันอย่างไร?
คนโดยส่วนใหญ่อาจเข้าใจว่าการเล่นสนุกเกอร์นั้นมีชื่อเรียกหลายชื่อ อาจจะเรียกพูลก็ได้ บิลเลียดก็ได้ ซึ่งจริงๆแล้วนั้นกีฬา สนุกเกอร์ พูล รวมถึงบิลเลียด มีลักษณะการเล่นที่ผิดแผกแตกต่าง การวางลูกที่ไม่เหมือนกัน รวมทั้งกฎกติกาที่แตกต่างออกไปอีกด้วย แม้กระนั้นความชอบและก็เป็นสากลมากกว่าจำเป็นจะต้องยกให้ สนุกเกอร์ ด้วยเหตุว่ามีการแข่งขันในสุดยอดปีละหลายๆครั้งจนได้รับการช่วยส่งเสริมจากผู้ช่วยเหลือและเป็นที่รู้จักมากกว่าพูลและบิลเลียด ในวันนี้เราจะมานำเสนอและแจกแจงความแตกต่างของกีฬาจำพวกนี้กัน
ลักษณะการเล่นที่แตกต่างกันระหว่าง สนุกเกอร์ พูล และบิลเลียด
การเล่นสนุกเกอร์นั้น จะมีลูกสีแดงทั้งสิ้น 15 ลูก (1 แต้ม) รวมทั้งลูกสีที่มีเหลือง (2แต้ม) เขียว (3แต้ม) น้ำตาล (4แต้ม) สีน้ำเงิน (5แต้ม) ชมพู (6แต้ม) ดำ (7แต้ม) อย่างละลูก โดยผู้เล่นจะต้องแทงลูกสีขาวหรือที่เรียกว่า คิวบอล กระทบลูกสีแดงให้ลงหลุมก่อนก็เลยจะเล่นลูกสีอื่นได้ หลังจากนั้นเมื่อลูกสีแดงหมดโต๊ะ ผู้เล่นก็จะไล่เก็บสีตามคะแนนจากน้อยไปพบมากมายก่ายกอง โดยสีดำจะเป็นลูกสุดท้าย คนใดกันแน่เป็นผู้ทำแต้มได้มากที่สุดจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น โดยภาษาสนุกเกอร์เรียกว่า เฟรม แต้มสูงสุดของการเล่นสนุกเกอร์เป็น 147 คะแนน หรือเรียกว่า แม๊กซิมัม เบรก
การเล่นบิลเลียดหรือแคม บิลเลียด ใช้บอลเพียงแค่ 3 ลูก เป็นต้นว่า ขาว แดง เหลือง การเล่นบิลเลียดจะต่างจากการเล่นสนุกเกอร์ตรงที่สนุกเกอร์แทงลงจะได้แต้ม แต่บิลเลียดจะมีการทำสกอร์ได้หลายจำพวก อย่างเช่นการแทงลูกขาวให้กระทบกับ 2 ลูกที่เหลือหรือที่เรียกว่าแคนนอลได้ 2 แต้ม ตบเหลืองลงได้ 2 แต้ม ตบแดงหรือขัดแดงเปลี่ยนขาวลงหลุมได้ 3 แต้ม แทงพลาดเสีย 1 แต้ม โดยไม่ลดแต้มผู้แทงหากแม้ไปเพิ่มแต้มให้คู่ชิงแทน แทงพลาดรวมทั้งคิวบอล(ลูกสีขาว)ลงหลุมเสีย 3 แต้ม ดังต่อไปนี้คนใดกันได้แต้มถึงตามที่กำหนดถือว่าข้างที่ชนะ
ส่วนการเล่นพูล หรือพอกเก็ต บิลเลียดจะต่างจากการเล่นสนุกเกอร์ตรงที่ การเล่นพูลมีอยู่หลายแบบด้วยกัน เช่น พูล 8 ลูกแล้วก็แบบ 15 ลูก สำหรับพูลแบบ 8 ลูกนั้น จะมีลูกขาวและจากนั้นก็ลูกเป้า 15 ลูก ที่มีเลขดูแล1-15โดยกติกามีอยู่ว่าผู้เล่นข้างหนึ่งจำเป็นต้องตบลูกในกลุ่มเลขลำดับ 1 ถึง 7 ซึ่งเป็นลูกสี Solid colors ในระหว่างที่ผู้เล่นอีกข้างหนึ่งจำเป็นจะต้องตบลูกในกลุ่มเลขลำดับ 9-15 ซึ่งเป็นลูกลาย Stripes ผู้เล่นในแต่ละข้างจำเป็นต้องตบลูกในกลุ่มของตัวเองให้หมดก่อน ก็เลยจะมีสิทธิ์ตบลูกหมายเลข 8 (ลูก 8) เพื่อเป็นผู้ชนะในเฟรมนั้น แต่ผู้เล่นมีสิทธิ์เป็นผู้แพ้อย่างฉับพลันถึงแม้ว่าพลาดทำลูก 8 ลงหลุมในขณะเล่นลูกกำหนดไว้หรือขณะที่ไม่ใช่ลูกในท่องเที่ยวแทง
กีฬาสนุกเกอร์ พูลแล้วหลังจากนั้นก็บิลเลียด ถ้าหากว่ามองผ่านๆมีหลายๆตัวอย่างเช่นกัน อย่างเช่น โต๊ะสนุกเกอร์ วัสดุไม้คิว และเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆถึงแม้ว่าที่แตกต่างก็คือ ขนาดของโต๊ะ การวางลูกในจุดต่างๆแนวทางการเล่นและจากนั้นก็การนับแต้ม การเล่นสนุกเกอร์ควรมีความเที่ยงธรรมมากกว่า ด้วยขนาดโต๊ะที่ใหญ่แล้วก็หลุมที่มีขนาดเล็กและแคบมากกว่าพูล ผู้ที่เล่นสนุกเกอร์ชำนาญจะแปลงเป็นผู้ที่มีฝีมือในทันทีทันใดในเรื่องของความแมนยำเมื่อมาเล่นพูล สนุกเกอร์เป็นกีฬาที่เล่นกันมากในแคนท้องทุ่งดา อังกฤษ ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และอินเดีย